| ลมพิษคืออะไรชนิดของลมพิษ
 สาเหตุของลมพิษ
 ทำอย่างไรเมื่อเกิดลมพิษ
 ลมพิษคืออะไร ลมพิษ
เป็นผื่นผิวหนังชนิดหนึ่ง
มีลักษณะเป็นผื่นแดง นูน ขนาดต่างๆกันอยู่กระจัดกระจาย
มักมีอาการคัน
 ผื่นลมพิษมีลักษณะนูน
เนื่องจากเกิดจากมีสิ่งกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเคมี
histamine ซึ่งทำให้มีผลให้สารนํ้าในหลอดเลือดไหลซึมผ่านออกสู่เนื้อเยื่อภายนอกหลอดเลือด
เห็นเป็นผื่นนูนขึ้นและมักมีอาการคันจากฤทธิ์ของhistamine
แต่ละผื่นที่เกิดขึ้นจะยุบหายไปเองภายใน
๒๔ ชั่วโมง
โดยไม่มีร่องรอยผิดปกติที่ผิวหนัง
แม้ว่าจะมีผื่นใหม่เกิดขึ้นได้อีกในตำแหน่งอื่น
 ชนิดของลมพิษ ลมพิษมี ๒ ชนิด แบ่งเป็น
ลมพิษเฉียบพลัน และ ลมพิษเรื้อรัง 
  |  | ลมพิษเฉียบพลัน
    มักเกิดขึ้นรวดเร็ว
    และหายในเวลาอันรวดเร็วเช่นกัน
    มักมีสาเหตุจากการแพ้สิ่งกระตุ้นบางอย่าง
    เช่น แพ้อาหาร
    ในผู้ป่วยลมพิษชนิดนี้ถ้ารู้สาเหตุ
    และสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ได้
    ก็จะไม่เกิดอาการขึ้นอีก |  |  | ลมพิษเรื้อรัง
    คือลมพิษที่เป็นๆหายๆเป็นระยะเวลานานกว่า
    ๖ สัปดาห์ ส่วนมากมักหาสาเหตุไม่พบ
    และเกิดผื่นขึ้นโดยไม่สามารถคาดเดาได้ล่วงหน้า |  
 สาเหตุของลมพิษ สิ่งกระตุ้นที่เป็นสาเหตุของลมพิษมีหลายอย่าง
ที่พบบ่อยได้แก่ 
  |  | อาหาร  เช่น อาหารทะเล
    ไข่ นม ถั่ว สารกันบูด อาหารหมักดอง
    สีผสมอาหาร ผลไม้บางอย่าง เป็นต้น
    ผื่นจะเกิดหลังจากรับประทานในเวลาเป็นนาทีหรือภายใน
    ๒ ชั่วโมง
    ขึ้นกับการดูดซึมของอาหารที่แพ้
    การจะบอกว่าแพ้อาหารใดต้องอาศัยการสังเกต
    และอาจต้องทดลองรับประทานทีละอย่าง
    และใช้วิธีจดรายการอาหารในแต่ละวัน 
    ถ้าพบว่าแพ้อาหารใดและหลีกเลี่ยงได้
    ก็จะไม่เกิดอาการของลมพิษขึ้นอีก |  |  | ยา ที่พบบ่อยคือ
    ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด แต่จริงๆแล้ว
    ยาแทบทุกชนิดทำให้เกิดลมพิษได้
    รวมทั้งวิตะมิน อาหารเสริม ยาคลายเครียด
    เป็นต้น ดังนั้น
    ควรตรวจดูยาที่คุณรับประทานในช่วง ๑
    เดือน
    ถ้าพบตัวใดน่าสงสัยควรปรึกษาแพทย์เพื่อเปลี่ยนเป็นยาตัวอื่นแทน |  |  | การติดเชื้อ เช่น หวัด
    ฟันผุ ไซนัสอักเสบ ไวรัสตับอักเสบ
    การอักเสบในช่องคลอด  มีพยาธิ์ในลำไส้ 
    เป็นต้น |  สาเหตุที่พบไม่บ่อย
เช่น  
  |  | การกดรัด(pressure) 
    เช่น
    เกิดผื่นขึ้นตามรอยเกา รอยขีด
    หรือแม้แต่รอยยับของเสื้อผ้า ขอบเสื้อชั้นใน ขอบกางเกง เป็นต้น
 |  |  | ความร้อน ความเย็น
    การออกกำลังกาย
    เวลาออกกำลังกายหรือทำงานจนเกิดอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น
    สามารถกระตุ้นให้เกิดลมพิษได้
    บางคนไวต่อความเย็น
    เวลากินนํ้าแข็งอาจเกิดผื่นบวมที่ริมฝีปาก |  |  | การสัมผัสสิ่งที่แพ้
    เช่น ถุงมือยาง อาหารดิบ เป็นต้น |  |  | แสงแดด
    คนที่แพ้แสงแดดพบได้น้อยมาก
    แต่ก็เกิดขึ้นได้
    มักมีผื่นลมพิษในเวลาเป็นนาทีหลังจากถูกแสงแดด
    และผื่นยุบใน ๑ ถึง ๒ ชั่วโมง |  
 ทำอย่างไรเมื่อเกิดลมพิษ 
  |  | อย่าเกา
    การเกาจะกระตุ้นให้ผื่นลมพิษขยายมากขึ้นได้ |  |  | รับประทานยาในกลุ่ม
    antihistamine ยาในกลุ่มนี้มีหลายตัว
    บางตัวทำให้เกิดอาการง่วง
    บางตัวได้ผลดีกับบางคนแต่ไม่ได้ผลกับบางคน
    ดังนั้นถ้าใช้ยาแล้วไม่ได้ผลหรือมีอาการง่วงมาก
    ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเปลี่ยนยา
    ยารุ่นใหม่ๆบางตัวไม่ทำให้ง่วง
    และรับประทานแค่วันละ ๑ ถึง ๒ ครั้ง
    แต่ราคาค่อนข้างแพง
    โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่เป็นลมพิษชนิดเรื้อรัง
    ซึ่งต้องรับประทานยาเป็นเวลานาน
 |  |  | วิธีที่ดีที่สุด
    ถ้าเป็นไปได้คือ เลี่ยงสาเหตุ
    ถ้าคุณสามารถโชคดีค้นหาสาเหตุพบ
    แต่ถ้าคุณเป็นลมพิษชนิดเรื้อรัง
    ซึ่งมักไม่พบสาเหตุ
    ควรได้รับการตรวจสุขภาพโดยทั่วไปว่ามีการอักเสบติดเชื้อเรื้อรังที่ใดที่หนึ่งในร่างกายหรือไม่
    ถ้าทุกอย่างปกติดี
    แต่คุณก็ยังมีลมพิษอยู่ อย่าเพิ่งท้อใจ
    อย่างน้อยคุณก็แน่ใจได้ว่าสุขภาพอย่างอื่นปกติดี
    ประมาณครึ่งของผู้ป่วยจะหายจากลมพิษได้เองในเวลาเป็นปี
    นอกจากนั้นการรับประทานยา antihistamine
    จะช่วยลดอาการได้
    ถ้าจะให้ได้ผลดีควรรับประทานยาตามเวลาที่กำหนดเพื่อป้องกันการเกิดผื่น บางครั้งอาจมีการดื้อต่อยาที่เคยใช้ได้ผลมาก่อน
ต้องเปลี่ยนยาตัวใหม่ภายหลัง |  
 
 web address: http://thaiskin.tripod.comemail: thaiskin@doctor.com
  
     |