โรคสะเก็ดเงินคืออะไร
โรคสะเก็ดเงินเกิดจากอะไร
ทำไมผิวหนังจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
การรักษาโรคสะเก็ดเงิน
ควรทำอย่างไรถ้าเป็นโรคสะเก็ดเงิน
โรคสะเก็ดเงินคืออะไร
โรคสะเก็ดเงิน
บางทีเรียก โรคเรื้อนกวาง
เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง
ที่มีผื่นนูนแดงและมีสะเก็ดหนาสีขาวเงินอยู่บนผื่น
บริเวณที่พบบ่อยคือ ข้อศอก เข่า หลัง
แต่ก็พบได้ทุกที่ของร่างกาย รวมทั้งแขนขา
ใบหน้า หนังศีรษะ และเล็บ
นอกจากนั้นประมาณ ๑๐
เปอร์เซนต์ของผู้ป่วยยังอาจมีอาการข้ออักเสบร่วมด้วย
ความรุนแรงของโรคมีตั้งแต่น้อยจนเป็นมากทั้งตัว
ในผู้ป่วยที่มีผื่นกระจายทั้งตัวมีโอกาสเกิดข้ออักเสบมากกว่าในรายที่มีผื่นเพียงเล็กน้อย
โรคสะเก็ดเงินเกิดจากอะไร
ผื่นในโรคสะเก็ดเงินเป็นผลจาก
เซลล์ผิวหนังมีการแบ่งตัวเร็วกว่าภาวะปกติ
โดยทั่วไปเซลล์ผิวหนังจะมีการแบ่งตัวและเคลื่อนตัวจากชั้นล่างสุด
ขึ้นสู่ชั้นบนสุด
และค่อยๆหลุดลอกไปเองในเวลาประมาณ ๓๐ วัน
แต่ในผู้ป่วยโรคนี้
เซลล์ผิวหนังใช้เวลาแค่ ๒ ถึง ๔ วัน
ในการเคลื่อนตัวไปสู่ชั้นบนสุด
ทำให้เซลล์ชั้นบนสุดอยู่กันหนาแน่นและลอกหลุดไม่ทัน
จึงเห็นเป็นสะเก็ดหนาเกิดขึ้น นอกจากนั้น
ผิวหนังบริเวณที่เป็นผื่นยังมีการอักเสบและมีหลอดเลือดฝอยเพิ่มขึ้น
ทำให้ผื่นใต้ต่อสะเก็ดมีลักษณะแดงด้วย
ทำไมผิวหนังจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
ยังไม่มีใครทราบสาเหตุแน่นอน
แต่เชื่อว่าการเกิดโรคเป็นจาก ๒ ปัจจัย
ร่วมกัน คือ
| ปัจจัยทางพันธุกรรม |
| ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม
เช่น ความเครียด คออักเสบ หวัด ยาบางชนิด
เป็นต้น |
การรักษาโรคสะเก็ดเงิน
ในปัจจุบันมีการรักษาหลายอย่างที่ทำให้ผื่นยุบลงในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
แต่โรคนี้ไม่หายขาด
มักเกิดผื่นขึ้นอีกหลังจากโรคสงบลง
การรักษาแบ่งเป็น ๓ กลุ่ม ได้แก่
ในผู้ป่วยที่เป็นมาก
แพทย์อาจให้ยารับประทาน ได้แก่
methotrexate,acitretin,cyclosporin เป็นต้น
แต่ยารับประทานทุกตัวมีผลข้างเคียงค่อนข้างรุนแรง
ระหว่างรับประทานยาจะมีการตรวจเลือดเป็นระยะ
เพื่อดูการทำงานของตับ ไขกระดูก เป็นต้น
ควรทำอย่างไรถ้าเป็นโรคสะเก็ดเงิน
| ทำความเข้าใจว่าเป็นโรคเรื้อรัง
ไม่หายขาด
แต่สามารถมีการรักษาที่ทำให้ผื่นสงบลงได้
โรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อ
คุณสามารถสัมผัสกับบุคคลอื่นได้
โดยไม่มีการแพร่เชื้อ |
| รักษาสุขภาพทั่วไปให้แข็งแรง
ความเครียด การเจ็บป่วย
เป็นตัวกระตุ้นให้ผื่นกำเริบได้ |
| อย่าแกะเกา
หรือขีดข่วนผิวหนัง
จะเกิดผื่นขึ้นตามรอยดังกล่าวได้ |
| อย่าปล่อยให้ผิวแห้ง
อาจทาmoisturizer ให้ผิวชุ่มชื้น จะช่วยลดอาการคันได้ |
| อาหารโดยทั่วไปไม่มีผลต่อการเกิดผื่น
แต่ห้ามดื่มเหล้า
การดื่มเหล้าจะทำให้การรักษาได้ผลน้อยลง
นอกจากนั้นถ้าต้องรับประทานยา
เหล้าจะไปทำให้เพิ่มผลข้างเคียงของยาที่มีต่อตับ |
| อย่าใช้ยาสเตียรอยด์ชนิดรับประทานในการรักษา
แม้จะให้ผลเร็ว แต่มีผลข้างเคียงมาก
และเมื่อหยุดยาจะทำให้โรคมีอาการรุนแรงขึ้น |
| รับการรักษาจากแพทย์อย่างสมํ่าเสมอ
แพทย์จะปรับวิธีการรักษาให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
ให้มีระยะเวลาที่โรคสงบได้นานที่สุด |
web address: http://thaiskin.tripod.com
email: thaiskin@doctor.com
|